หลังจากผมทำงานในฐานะหมอทางเดินปัสสาวะมาหลายปี ผมได้พบคนไข้ที่ประสบปัญหาภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ โรคนี้เป็นโรคที่พบบ่อยในคุณผู้หญิงและพบได้บ้างในคุณผู้ชาย ซึ่งวันนี้เราจะมาคุยเกี่ยวกับโรคนี้กันครับ อันดับแรกเราต้องเข้าใจหน้าที่ของกระเพาะปัสสาวะก่อนนะครับ กระเพาะปัสสาวะของคนเรามีหน้าที่กักเก็บน้ำปัสสาวะและบีบไล่น้ำปัสสาวะออกทั้งหมดเมื่อมีการปัสสาวะ โดยโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดีเป็นภาวะที่กระเพาะปัสสาวะไม่สามารถบีบไล่น้ำปัสสาวะออกไปได้หมดทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ครับ
- รู้สึกปัสสาวะไม่พุ่ง
- ใช้เวลาปัสสาวะนานผิดปกติ
- รู้สึกปัสสาวะไม่สุดแม้ว่าจะปัสสาวะเสร็จแล้ว
หลังจากหมอทางเดินปัสสาวะได้ตรวจและค้นพบว่าไม่มีโรคอื่นเช่นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบแล้วเราจึงให้ความสนใจว่าน่าจะเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดีครับ
สาเหตุที่เป็นไปได้ของ โรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดี มีดังนี้ครับ
- โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท - กระเพาะปัสสาวะเป็นอวัยวะที่ถูกควบคุมโดยสมองและไขสันหลังดังนั้นความผิดปกติของระบบประสาทจะทำให้กระเพาะปัสสาวะมีปัญหาได้ครับ
- โรคเส้นเลือดในสมองตีบ
- โรคเนื้องอกในสมองหรือไขสันหลัง
- เกิดอุบัติเหตุที่มีการบาดเจ็บต่อไขสันหลัง
- โรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท
- กลุ่มโรคที่พบได้ยากเช่น Multiple sclerosis
- เกิดจากอายุที่มากขึ้น - กระเพาะปัสสาวะเป็นอวัยวะที่สามารถมีความเสื่อมได้เหมือนกับอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย โดยรอบๆ ของกระเพาะปัสสาวะจะมีกล้ามเนื้อที่อยู่นอกเหนืออำนาจจิตใจ ซึ่งทำหน้าที่บีบไล่น้ำปัสสาวะ อย่างไรก็ตามเมื่ออายุมากขึ้นกล้ามเนื้อดังกล่าวบีบตัวได้แย่ลง นำไปสู่โรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดีครับ
- ภาวะกระเพาะปัสสาวะกักเก็บน้ำปัสสาวะปริมาณมากเกินไป - สภาวะนี้พบได้หลังจากการดมยาสลบด้วยการบล็อกหลังครับ Spinal block
- โรคเบาหวาน - เป็นโรคความเสื่อมที่พบได้บ่อยและส่งผลต่อการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีจะทำให้การบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะไม่ดีรวมถึงการรับความรู้สึกของการปวดปัสสาวะน้อยลง
แนวทางการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดี
- บำบัดด้วยพฤติกรรม
- จับเวลาการปัสสาวะ - การจับเวลาเพื่อไปเข้าห้องน้ำเป็นการป้องกันไม่ให้กระเพาะปัสสาวะกักเก็บน้ำปัสสาวะปริมาณมากเกินไป
- การช่วยเบ่งปัสสาวะเพื่อช่วยบีบไล่น้ำปัสสาวะ
- เทคนิคการปัสสาวะสองครั้ง - เข้าห้องน้ำอีกครั้งหลังจากปัสสาวะครั้งแรก 20 นาทีเพื่อระบายน้ำปัสสาวะออกให้มากที่สุด
- ยาทาน - มียาหลายตัวให้เลือกโดยแต่ละตัวจะกระตุ้นการทำงานของกระเพาะปัสสาวะดังนี้
- เพิ่มการรับรู้เมื่อน้ำปัสสาวะเต็มกระเพาะปัสสาวะ
- กระตุ้นให้การบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะดีขึ้น
- สวนปัสสาวะด้วยตัวเอง Clean intermittent catheterization - เป็นวิธีแนะนำในการจัดการคนไข้ที่มีปัสสาวะค้างจำนวนมากแม้ว่าจะรักษาด้วยวิธีข้างบนมาแล้วก็ตาม ข้อบ่งชี้ในการเรียนสวนปัสสาวะด้วยตัวเอง
- ภาวะปัสสาวะไม่ออก Urinary retention
- กระเพาะปัสสาวะติดเชื้อเรื้อรัง
- ภาวะไตวายจากปริมาณปัสสาวะค้างที่มากเกินไป
ภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไม่ดีเป็นปัญหาที่น่าปวดหัวทั้งสำหรับหมอทางเดินปัสสาวะและคนไข้ การทำความเข้าใจสาเหตุและวางแผนการรักษาร่วมกันที่เหมาะสมทำให้ผลการรักษาออกมาได้ผลดี หากมีคำถามใดๆ ลองปรึกษาหมอทางเดินปัสสาวะที่คุณไว้ใจหรือฝากข้อความหาผมได้ครับ
คุณสามารถเยี่ยมชม Homepage ของผมได้ ที่นี่.
หนึ่งความคิดบน “Female abnormal voiding: Underactive bladder disease”