มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ประสบปัญหาขาดฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone deficiency syndrome) ที่ต้องการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) ที่คลินิคของผม อย่างที่เราทราบดีครับว่าฮอร์โมน Testosterone เป็นฮอร์โมนที่ให้ท่านชายมีสุขภาพที่ดีแข็งแรง ระดับฮอร์โมนเพศชายที่เพียงพอจะทำให้เราสดใสดูอ่อนเยาว์ ระดับฮอร์โมนเพศชายจะถึงระดับสูงสุดเมื่ออายุ 30 และจะค่อยๆ ลดลงโดยประมาณ 1% ต่อปี หน้าที่ของฮอร์โมนเพศชายมีบทบาทหลักในการแข็งตัวของอวัยวะเพศ ความต้องการทางเพศและอารมณ์ที่สดชื่นในท่านชาย

ทุกๆ อย่างมีข้อดีและข้อเสียของมัน ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณควรทราบก่อนที่จะเริ่มรักษาด้วยการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) มาดูกันครับ

ข้อดีของการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy)
- สามารถเพิ่มความต้องการทางเพศและแก้ปัญหานกเขาไม่ขัน – ปริมาณฮอร์โมนเพศชายในเลือดสัมพันธ์กับระดับความต้องการทางเพศและการแข็งตัวของอวัยวะเพศ มีคำแนะนำทางการแพทย์ว่า เราสามารถลองเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) ในระยะสั้นก่อนในคนไข้ใหม่ ก่อนที่จะพิจารณาให้ในระยะยาวครับ

- เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก (Bone density)
- เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ (Muscle mass) และลดมวลไขมัน
- ทำให้อารมณ์คงที่ สุขภาพโดยรวมดีขึ้นและแก้ปัญหาเมื่อยล้า – ในบางครั้งปัญหาขาดฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone deficiency syndrome) ถูกเรียกว่าภาวะวัยทองของผู้ชาย การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) จะช่วยแก้ปัญหาอาการวัยทองในผู้ชายได้
- การรายงานป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ – มีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่าระดับฮอร์โมนเพศชายที่สูงขึ้น จะทำให้ความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์น้อยลง
- สามารถรักษาภาวะโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดหัวใจได้ – การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) ทำให้ภาวะดื้อต่ออินซูลินลดลงและลดความเสี่ยงของความดันโลหิตสูง เบาหวานและโรคไขมันในเส้นเลือดได้
ข้อเสียของการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy)
- อาจทำให้โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) แย่ลง - โรคต่อมลูกหมากโตเป็นภาวะของต่อมลูกหมากเสื่อม ซึ่งโรคนี้จะดีขึ้นด้วยระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดลง ในทางตรงกันข้าม การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายอาจทำให้อาการแย่ลงได้
- ทำให้โรคมะเร็งต่อมลูกหมากแย่ลง – การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) ถือเป็นข้อห้ามของการรักษาในคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากเนื่องจากการรักษาจะทำให้โรคมะเร็งต่อมลูกหมากลุกลามมากขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เราต้องตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากก่อนทุกรายครับ

- ความเสี่ยงของการเกิดภาวะเม็ดเลือดแดงเข้มข้นสูง (Polycythemia) การเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) จะกระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดงโดยตรง ส่งผลดีในการเพิ่มการลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะส่วนปลาย แต่ถ้าความเข้มข้นมากเกินไปอาจเป็นปัญหาได้ เช่น มีความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตันสูงขึ้น นั่นเป็นเหตุผลที่เราจะต้องตรวจเลือดเป็นประจำในระหว่างการรักษาด้วยการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy)
- มีความต้องการทางเพศมากเกินพอดีและนิสัยก้าวร้าวมากขึ้น – จากระดับฮอร์โมนเพศชายที่เพิ่มขึ้น แต่พบไม่มากครับ
- มีเต้านมีคล้ายผู้หญิง (Gynecomastia) เมื่อมีการรักษาด้วยการเพิ่มฮอร์โมนเพศชายด้วยยา (Testosterone replacement therapy) เป็นระยะเวลานาน
- การลดขนาดของลูกอัณฑะและภาวะอสุจิไม่แข็งแรง – การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลหลังจากเริ่มการรักษาประมาณ 10 สัปดาห์ และจะกลับมาเป็นปกติเมื่อหยุดการรักษาเป็นเวลา 18 เดือนครับ
คุณสามารถเยี่ยมชม Homepage ของผมได้ ที่นี่.




