โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรือภาวะอั้นฉี่ไม่ได้เป็นหัวข้อที่เราจะคุยกันวันนี้ครับ ก่อนอื่นผมต้องบอกครับว่าโรคนี้ไม่ได้เป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต แต่สร้างความทุกข์ทรมานทางจิตใจต่อผู้ป่วยมากๆ ครับ โรคนี้มักพบบ่อยเมื่ออายุมากขึ้น ยังไม่มีรายงานตัวเลขที่แน่ชัด แต่คาดการณ์ว่ามีอุบัติการณ์ทั่วโลกมากถึง 400 ล้านคน โดยพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชายประมาณ 2 เท่า
สาเหตุของ โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ Urinary incontinence สามารถแบ่งสาเหตุได้ตามเพศ
- ประวัติเสี่ยงในเพศหญิง
- ประวัติการตั้งครรภ์
- จำนวนบุตร
- ประวัติโรคเบาหวาน
- ภาวะอ้วน


- ประวัติเสี่ยงในเพศชาย
- ประวัติผ่าตัดต่อมลูกหมาก

โรคกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรืออั้นฉี่ไม่ได้แบ่งได้ 4 ประเภทกว้างๆ
- ภาวะปัสสาวะเล็ด หลังไอ จาม Stress incontinence
- เป็นภาวะปัสสาวะเล็ดเมื่อมีการเบ่งช่องท้อง เช่น ไอ จาม ยกของหนัก
- พบบ่อยในเพศหญิง
- พบมากถึง 45% ในเพศหญิงอายุมากกว่า 30 ปีขึ้นไป
- ภาวะปัสสาวะเล็ด ก่อนไปถึงห้องน้ำ Urge incontinence
- เป็นภาวะที่ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้และทำให้ปัสสาวะเล็ดราดออกมาก่อนที่จะพาตัวเองไปถึงห้องน้ำ
- พบบ่อยในเพศชายอายุมาก
- พบมากถึง 42% ในเพศชายที่อายุมากกว่า 75 ปีขึ้นไป

- ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรืออั้นฉี่ไม่ได้แบบผสม Mixed incontinence
- เป็นภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ที่เป็นแสดงอาการแบบข้อ 1 และข้อ 2 ข้างบนผสมกัน
- ภาวะปัสสาวะล้น Overflow incontinence
- เป็นภาวะปัสสาวะล้นออกมาจากกระเพาะปัสสาวะ มักเกิดขึ้นเมื่อน้ำเต็มกระเพาะปัสสาวะจนไม่สามารถขยายตัวได้อีก
- โรคเกี่ยวข้องกับระบบประสาท เช่น โรคไขสันหลัง โรคเบาหวาน
- โรคที่อุดกั้นระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากโต ก้อนในท้องน้อยที่กดทับทางเดินปัสสาวะ
เมื่อคนไข้มีปัญหากลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรืออั้นฉี่ไม่ได้ เราจำเป็นจะต้องซักประวัติ และตรวจร่างกายโดยละเอียด เพื่อแยกประเภทของโรคนี้เนื่องจากภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่หรืออั้นฉี่ไม่ได้แต่ละชนิดมีการรักษาที่แตกต่างกันไป ทำให้การรักษาคนไข้แต่ละรายจะมีรายละเอียดเฉพาะ อย่างที่ผมเล่าให้ฟังตอนต้นว่าโรคนี้สร้างผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นนะครับ
ถ้ามีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ ลองทัก ผม.




