คุณเคยเจอปัญหาภาวะหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) มั้ยครับ? ผมมั่นใจเลยครับว่าท่านชายเกือบทุกท่านรวมถึงผมเองด้วยจะต้องเคยประสบปัญหานี้มาอย่างน้อยสองสามครั้งในชีวิตทั้งหมดของเรา ถ้าอาการหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยก็คงจะไม่เป็นปัญหามาก แต่กลับกัน ถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณบ่อยๆ และสร้างปัญหาให้กับคู่ของคุณ คุณจะแก้ปัญหานี้อย่างไร? บทความนี้จะพูดถึงการรักษาโรคหลั่งเร็ว เสร็จเร็วเบื้องต้นด้วยตัวเองนะครับ

ก่อนจะเข้าเรื่อง เราต้องทราบคำจำกัดความของโรคหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) กันก่อนครับ มีองค์กรจำนวนมากพยายามให้คำจำกัดความโรคนี้ด้วยคำพูดต่างๆ กัน แต่ทั้งหมดมีความหมายง่ายๆ ดังนี้ "ภาวะไม่สามารถควบคุมการถึงจุดสุดยอดจนทำให้เกิดการหลั่งอสุจิออกมาก่อนที่ควรจะเป็น” โรคหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) มีคำจำกัดความหลากหลาย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
คำจำกัดความของการหลั่งเร็ว
- องค์การอนามัยโลก (WHO) อธิบายโรคหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) ว่า "ภาวะไม่สามารถชะลอการหลั่งได้นานพอที่จะรื่นรมย์ไปกับการกิจกรรมทางเพศ ซึ่งแสดงออกโดยการหลั่งอสุจิไม่นานหลังจากเริ่มมีเพศสัมพันธ์หรือการหลั่งเกิดขึ้นทันทีโดยไม่มีการแข็งตัวที่เพียงพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้”
- สมาคมแพทย์ทางเดินปัสสาวะแห่งสหรัฐอเมริกา (AUA) ให้คำจำกัดความไว้ว่า "หลั่งเร็ว เสร็จเร็วกว่าที่ต้องการ อาจจะยังไม่ทันสอดใส่หรือทันทีหลังจากที่สอดใส่ ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานกับคู่นอนคนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่"

มาเข้าเรื่องการแก้ไขภาวะหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) ด้วยตัวเองกันดีกว่าครับ ตามข้างล่างนี้เลย
- เปิดใจและพูดคุยกับคู่ของคุณอย่างจริงใจ – มีงานวิจัยทางการแพทย์ชัดเจนว่าความไม่เข้าใจกันหรือความสัมพันธ์ที่ไม่ดีระหว่างผู้ป่วยและคู่นอนอาจนำไปสู่ภาวะหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) การดูแลเอาใจใส่และทำความเข้าใจกันมากขึ้นสามารถภาวะนี้ดีขึ้นได้
- สังเกตสิ่งที่ทำให้ภาวะหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) แย่ลงหรือดีขึ้น - การจิบไวน์สักแก้วอาจจะยืดระยะเวลากิจกรรมทางเพศหรือบางครั้งการใช้ยาบางตัวจะทำให้ภาวะนี้แย่ลง
- เทคนิคหยุดกิจกรรมทางเพศเป็นระยะๆ (Start-Stop technique) – เทคนิคนี้ถูกเสนอเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว วิธีนั่นง่ายมาก ผู้ชายต้องแจ้งคู่นอนให้หยุดการกระตุ้นอวัยวะเพศจนกว่าสภาวะตื่นเต้นจะหายไป จากนั้นค่อยเริ่มการกระตุ้นอีกครั้ง สามารถทำวนซ้ำแล้วซ้ำอีกได้เรื่อยๆ จนกว่าจะพอใจ
- เทคนิค “บีบหัวองคชาต” – เมื่อท่านชายเริ่มเข้าใกล้จุดสุดยอด ให้คู่นอนบีบระหว่างปลายองคชาตและแกนองคชาต จนกว่าการแข็งตัวของอวัยวะเพศจะลดลง สามารถทำซ้ำแล้วซ้ำอีกตามความพอใจ
- การออกกำลังกาย – การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถเพิ่มสารสื่อประสาทเซโรโทนิน (Serotonin) ซึ่งสามารถยืดระยะเวลาการหลั่งได้ มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันว่าการออกกำลังกายระดับปานกลาง เช่น การวิ่ง การปั่นจักรยาน ต่อเนื่องนานกว่า 30 นาทีอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ช่วยแก้ภาวะหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- การใช้ถุงยางอนามัย – ถุงยางอนามัยสามารถลดความไวต่อความรู้สึกของปลายอวัยวะเพศได้ นอกจากนี้ ผู้ผลิตถุงยางอนามัยหลายรายยังเพิ่มสารหล่อลื่นที่มีคุณสมบัติลดความรู้สึก ส่งผลให้ระยะเวลากิจกรรมทางเพศยาวนานขึ้น
- ยาชาใช้ทาอวัยวะเพศ – ยาชาเฉพาะที่ เช่น Lidocaine ทาที่ส่วนปลายและก้านขององคชาต 10 – 15 นาทีก่อนกิจกรรมทางเพศจะช่วยยืดระยะเวลาการหลั่งได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดดังนี้
- ล้างยาชาออกก่อนที่จะสอดใส่ เนื่องจากมีรายงานว่าทำให้คู่นอนเกิดอาการชาไปด้วย
- ต้องเริ่มมีกิจกรรมทางเพศทันที เนื่องจากมีรายงานว่าจะทำให้อวัยวะอ่อนตัวอย่างรวดเร็วถ้าไม่มีการเร้า และยากต่อการทำให้แข็งตัวได้อีกครั้ง
ที่ผมกล่าวมาทั้งหมดคือ 7 วิธีในการแก้ปัญหาภาวะหลั่งเร็ว เสร็จเร็ว (Premature ejaculation) หากยังพบปัญหาอยู่ ลองส่งข้อความมาหา ผม หรือปรึกษาหมอทางเดินปัสสาวะที่คุณไว้ใจครับ




